สถานที่ในการแข่งขัน ของ ดิอะเมซิ่งเรซ 16

เดินทางโดยเครื่องบิน; เดินทางโดยรถไฟ; เดินทางโดยเรือ; เดินทางโดยรถประจำทาง; ไม่มี = เดินทางโดยรถยนต์หรือเดิน
ทางแยก อุปสรรค ทางด่วน จุดร่วมมือ งานเพิ่มเติม ย้อนกลับ จุดหยุดพัก
แผนที่แสดงเส้นทาง

เลก 1 (สหรัฐอเมริกา → ชิลี)

ที่เมืองบัลปาราอีโซ ทีมจะต้องเดินทางโดยใช้กระเช้าเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆ ดังเช่นสถานีลิฟท์อาร์ตติลลีเรีย

สำหรับอุปสรรคแรกของการแข่งขัน สมาชิกที่ทำอุปสรรคจะต้องเดินบนเส้นเคเบิล โดยใช้มือจับเชือกอีกเส้นแล้วไต่ไปเป็นระยะทางของสนามฟุตบอล (120 ฟุตหรือ 37 เมตร) เหนือพื้นดิน เมื่อสมาชิกเดินถึงฝั่งตรงข้ามแล้ว ทีมจะเจอกับกล่องคำใบ้ต่อไป

ภารกิจเสริม
  • ที่พาซิโอ เทมเพิลแมน ทีมจะต้องหยิบอุปกรณ์ทาบ้าน ได้แก่กระป๋องสี 4 กระป๋อง แปรงและบันได มายังบ้านที่มีสีตรงกับกระป๋องสี แล้วใช้สีทาบริเวณช่องว่างให้เรียบร้อย แล้วทีมจะได้รับคำใบ้ต่อไป อย่างไรก็ตามในบริเวณนั้น มีบ้านหลายหลังที่มีสีตรงกัน ซึ่งสตีฟกับแอลลี่เข้าไปในบ้านผิดหลัง แล้วทาสีต่อจากสีที่ทาไว้แล้วบนกำแพงบนกำแพง ท่ามกลางการสับสนของช่างทาสีท้องถิ่นแล้วก็ยังไม่ได้รับคำใบ้ถัดไป

เลก 2 (ชิลี)

ในเลกนี้ ทีมจะต้องเดินทางไปยังจังหวัดในแคว้นลอส ลากอสในชิลี ซึ่งรู้จักกันดีสำหรับทะเลสาบ และภูเขาไฟ

สำหรับทางแยกแรกในรายการ ทีมจะต้องเลือกระหว่าง ความเลื่อมใสในตัวลามะ (Llama Adoration) กับความเกรงกลัวในตัวอีแร้ง (Condor Consternation) โดยทีมที่เลือกความเลื่อมใสในตัวลามะนั้น จะต้องเดินทางจากจุดชมวิวบริเวณทะเลสาบทูดูส ลอส ซานตอส มายังฟาร์มบริเวณใกล้เคียง แล้วทีมจะต้องเลือกตัวลามะ เพื่อวางผ้าห่มลงบนหลังและผูกผ้าพันคอที่คอ สำหรับงานเทศกาล เมื่อทีมทำเสร็จเรียบร้อยแล้ว ทีมจะได้รับคำใบ้ต่อไป ส่วนทีมที่เลือกความเกรงกลัวในตัววเหยี่ยวนั้น จะต้องเดินทางไปยังชายหาดใกล้เคียง เพื่อทำการระลึกถึงอีแร้งคอนดอร์ โดยการสวมรองเท้าพิเศษ แล้วใช้เครื่องร่อนโครงสร้างเบาและปีกกว้าง ที่มีรูปร่างคล้ายอีแร้งร่อนตัวลงไปในน้ำ แล้วว่ายน้ำไปยังทุ่นที่คำใบ้ต่อไปผูกอยู่ ส่วนอุปสรรคในเลกนี้นั้น สมาชิกที่ทำอุปสรรคจะต้องรวบรวมส่วนผสม เพื่อใช้ในการทำเค้กภายในฟาร์ม ซึ่งเสนอถึงกลุ่มลูกครึ่งชิลี - เยอรมนี โดยจะต้องเก็บเนย 1 จาน, นมวัว 1 แก้วโดยคั้นสด, ไข่ไก่ 1 โหลจากเล้า น้ำตาล 1 ชามและแป้ง 1 ถุง หลังจากที่สมาชิกเก็บส่วนผสมได้ครบแล้ว จะต้องทำไปให้นักอบขนมปังในครัว เพื่อแลกกับคำใบ้ต่อไป

เลก 3 (ชิลี → อาร์เจนตินา)

ภารกิจส่วนใหญ่ในเลกนี้ จะรำลึกถึงเหล่าโคบาล และวีรบุรุษท้องถิ่นในอาร์เจนตินา
  • เปอร์โต วาราส (สถานีขนส่งเดล ซาลวาดอร์/ สถานีขนส่งครุซ เดล ซู) ไปซาน คาร์ลอส เด บาริโลเช่, อาร์เจนตินา
  • ซาน คาร์ลอส เด บาริโลเช่ (เอล โบลิเช่ วายโจ)
  • ซาน คาร์ลอส เด บาริโลเช่ (เปอนา เกชา)
  • นิริฮู (เปนเน่ นิริฮู)
  • จังหวัด Neuquén (Estancia Fortin Chacabuco)

สำหรับอุปสรรคของเลกนี้ สมาชิกที่ทำอุปสรรคจะต้องเลือกจุดโยนเชือก โดยอยู่ห่างจากวัวกระทิงที่ทำจากฟาง 18 ฟุต (5.5 เมตร) แล้วหมุนเชือกเพื่อขว้างให้คล้องส่วนใดส่วนหนึ่งของวัวกระทิง แล้วดึงมันเข้ามา โดยด้านหน้าจะมีคำใบ้ต่อไปแปะอยู่ ส่วนทางแยกของเลกนี้ ทีมจะต้องเลือกระหว่างสัมผัสของม้า (Horse Sense) กับกำลังของม้า (Horse Power) โดยทีมที่เลือกสัมผัสของม้า จะต้องเดินทางไปหาคนดวลปืน แล้วจะได้รับกระดาษที่บอกจำนวนก้าวและทิศทางในการเดิน เพื่อหาถุง 2 ถุงซึ่งมีปากกาเขียนบกถึงทิศทางที่ต้องเดินมา โดยอาศัยเพียงเข็มทิศโบราณเป็นตัวบอกทิศเท่านั้น เมื่อทีมหาถุงเจอแล้ว ทีมจะต้องนำถุงมาให้กับหัวหน้าขุนโจร เมื่อเขาเห็นว่าทิศที่เขียนในกระดาษกับถุงตรงกัน เขาจะให้เหรียญ ซึ่งมีสถานที่อันเป็นจุดหยุดพักสลักอยู่ แต่ถ้าหากไม่ใช่ เขาจะบอกให้ไปให้มาใหม่ ส่วนทีมที่เลือกกำลังของม้า จะต้องสวมเสื้อเล่นโปโล โดยนั่งบนม้าไม้ แล้วใช้ไม้แครกเก็ตตีลูกให้เข้าประตูภายใน 9 ลูก ซึ่งทีมจะต้องยกม้าไม้ไปเมื่อตีลูกแต่ละครั้ง เมื่อลูกเข้าประตูแล้ว ทีมจะได้รับถ้วยรางวัล ซึ่งด้านล่างถ้วยจะมีคำใบ้อยู่ แต่ถ้าตีลูกไม่เข้าประตูภายใน 9 ลูก ทีมจะต้องกลับไปตีใหม่อีกกรอบ

ภารกิจเสริม
  • ที่ส่วนของคำใบ้ที่บอกให้มายังเอล โบลิเช่ วายโจ ทีมจะได้รับรูปภาพดิจิตอลที่ถูกดัดแปลงของกลุ่มชาวป่าบุช แคสสิดี้ โดยรวมถึงตุ๊กตาโนมอีกด้วย ซึ่งบอกให้ทีมหาตุ๊กตาโนมที่กำแพง ซึ่งที่นั่น ทีมจะต้องเล่นโป๊กเกอร์ 5 ใบให้ชนะผู้ดูแลการสัญจรของตุ๊กตาโนม เพื่อรับตุ๊กตาโนม ซึ่งฐานตัวโนมมีคำใบ้ต่อไปซ้อนอยู่ โดยภารกิจนี้ เป็นการระลึกถึงกลุ่มของบุช แคสสิดี้และซันแดนซ์ ซึ่งหลบหนีมายังอาร์เจนตินา

เลก 4 (อาร์เจนตินา → เยอรมนี)

ที่คลับเพลงอินดรา ในแหล่งซ่องสุมโสเภณีในฮัมบวร์ก เป็นสถานที่ในการแสดงครั้งแรกของเดอะบีตเทิลส์ ซึ่งเป็นจุดหยุดพักในการแข่งขัน

ณ จุดเริ่มมือ ทีมจะต้องร่วมมือกับทีมใดทีมหนึ่ง เพื่อทำภารกิจและตัดสินใจร่วมกัน จนกระทั่งคำสั่งอนาคต ในอุปสรรคพิเศษของเลกนี้ สมาชิกที่ทำอุปสรรคของทั้ง 2 ทีมจะเดินทางโดยรถไฟฟ้าใต้ดิน ไปยังสถานีท่าเรือฮัมบวร์ก แล้วกระโดดบันจีจัมพ์จากบนเครน ซึ่งสูงจากพื้นดืน 150 ฟุต (46 เมตร) เมื่อสมาชิกกระโดดเสร็จเรียบร้อยแล้ว ทีมจะได้รับคำใบ้ต่อไป และเมื่อสมาชิกที่ทำอุปสรรคกลับมาหาสมาชิกอีกคนหนึ่ง ซึ่งรออยู่ที่ถนนจุงเฟิร์นสเตคแล้ว ทีมไม่จำเป็นที่จะร่วมมือกันอีก ส่วนทางแยกของเลกนี้ ทีมจะต้องเลือกระหว่างกีฬาฟุตบอล (Soccer) กับกะหล่ำดอง (Sauerkraut) โดยทีมที่เลือกกีฬาฟุตบอลนั้น จะต้องเดินทางไปยังสนามกีฬา Adolf-Jäger-Kampfbahn แล้วเตะลูกฟุตบอลให้โดนเป้าทั้ง 5 ลูกจากกรอบเขตโทษ เมื่อทีมเตะโดนครบแล้ว ทีมจะได้รับคำใบ้ต่อไป ส่วนทีมที่เลือกกะหล่ำดอง จะต้องเดินทางไปยังร้านอาหาร แล้วรับประทานกะหล่ำดองในจาน ระหว่างที่วงดนตรีเล่นเพลงชื่อว่า "Sauerkraut Polka" โดยทีมจะต้องรับประทานให้หมดจาน ก่อนที่วงจะเล่นเพลงจบ แล้วทีมจะได้รับคำใบ้ต่อไปจากพนักงานเสิร์ฟ แต่ถ้าหากทีมไม่สามารถรับประทานให้หมดได้ ทีมจะต้องรับประทานหมดอีกรอบหรือเปลี่ยนไปทำทางแยกกีฬาฟุตบอล

ภารกิจเสริม
  • ที่บาร์ฉลาม ทีมจะต้องดื่มเบียร์ในแก้วรองเท้าบู๊ตให้หมด ก่อนที่จะได้รับคำใบ้ต่อไป
  • ที่จัตุรัสเดอะบีตเทิลส์ ทีมจะต้องเดินทางโดยเท้าไปตามแหล่งซ่องสุมโสเภณีของฮัมบวร์ก เพื่อเข้าจุดหยุดพักที่คลับเพลงอินดรา

เลก 5 (เยอรมนี → ฝรั่งเศส)

ระหว่างการทำภารกิจ "ทางแยก" นั้น ทีมจะถูกโจมตีจากนักบินซึ่งขับเครื่องบินของมันเฟรด ฟอน ริชโทเฟน โดยกระทำโดยได้รับแรงบันดาลใจ มาจากประวัติศาสตร์การทำสงครามที่สนามเพลาะ ในสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง
  • ฮัมบวร์ก ไป มงเฟฮง, ลอเรน, ฝรั่งเศส (ปราสาทมงเฟฮง (ฝรั่งเศส))
  • แชง-เมอเนออูลด์, ฌองปาญจ์ อาร์ค ด่อง (ร้านขนมปังเดอซงแตน)
  • มาซเซย (สถานที่ฝึกรบมาซเซย) (ฝรั่งเศส) (ไม่เปิดเผยภายในป้ายว่าใครสั่งยูเทิร์น)
  • มาซเซย (โบสถ์มาซเซย)

เมื่อทีมเดินทางถึงจุดหยุดพักแล้ว ทีมจะต้องเดินทางโดยรถโดยสารจากฮัมบวร์กไปยังจุดหมายต่อไป ซึ่งก็คือปราสาทมงเฟฮง ที่เมืองลอเรน ประเทศฝรั่งเศสนั่นเอง สำหรับทางแยกของเลกนี้ ทีมจะต้องเลือกระหว่างในสนามเพลาะ (In the Trench) กับใต้เปลวเพลิงไหม้ (Under Fire) โดยทั้งสองทางแยกนั้น ทีมจะต้องสวมเครื่องแต่งกายเป็นทหารสหรัฐอเมริกา ในสงครามโลกครั้งที่หนึ่งให้เรียบร้อยก่อน ซึ่งทีมที่เลือกใต้สนามเพลาะนั้น จะต้องเดินทางไปตามสนามเพลาะ จนถึงสถานที่ที่มีโทรเลข และแปลสัญญาณที่ส่งมาเป็นรหัสมอร์ส จะได้คำว่า "พวกเราชนะแล้วหรือ Vive la France." แล้วนำข้อความที่แปลสัญญาณได้ไปบอกทหาร เพื่อรับคำใบ้ต่อไป ส่วนทีมที่เลือกใต้เปลวเพลิงไหม้นั้น จะต้องคลานไปตามลวดหนาม จนถึงหลุมหลบภัยที่มีทหารซ่อนตัวอยู่ เพื่อรับข้อความจากทหาร แล้วคลานกลับเพื่อนำข้อความไปบอกทหาร เพื่อให้ทหารนำนกพิราบสื่อสารส่งไปบอกข้อความว่า "สงครามสงบแล้วหรือ Vive la liberté." เพื่อรับคำใบ้ต่อไป ส่วนงานเพิ่มเติมของจอร์แดนกับเจฟนั้น จะต้องเดินทางไปตามสนามเพลาะ (สถานที่เดียวกับที่ทำภารกิจทางแยก "ในสนามเพลาะ" แล้วก่อกำแพงสนามเพลาะโดยใช้กิ่งไม้ให้เรียบร้อย เพื่อให้ทหารรู้สึกพึงพอใจ แล้วมอบคำใบ้ต่อไปเพื่อให้พวกเขาสามารถกลับไปทำงานทางแยกได้

ภารกิจเสริม
  • ที่ร้านขนมปังเดอซงแตน ทีมจะได้รับบาเกต ซึ่งภายในจะบรรจุคำใบ้ต่อไป
  • หลังจากที่ทีมทำงานทางแยกเสร็จแล้ว ทีมจะต้องเดินตามถนนมาทางใต้ เพื่อพบกับป้ายย้อนกลับและคำใบ้ต่อไ
  • หลังจากที่ทีมเดินทางมาถึงโบสถ์มาซเซยแล้ว ทีมจะต้องแต่งกายเป็นเครื่องแบบการขี่จักรยานฝรั่งเศสท้องถิ่น (เช่น หนวดปลอม) แล้วขี่จักรยานโบราณ ไปยังจุดหยุดพัก ซึ่งมีวงดุริยางค์รอต้อนรับทีมอยู่

เลก 6 (ฝรั่งเศส)

เมื่อทีมเดินทางถึงเมืองไรมส์แล้ว ทีมจะต้องหาผู้หญิงที่เล่นเลื่อยดนตรี ใกล้กับรูปปั้นโยนออฟอาร์ค ซึ่งตั้งอยู่บริเวณด้านนอกโบสถ์นอร์ทเทอดาม

อุปสรรคของเลกนี้ สมาชิกที่ทำอุปสรรคจะต้องไต่ลงไปในท่อลึก 100 ฟุต (30 เมตร) จนถึงชั้นหินดินสอพองซึ่งเก็บทรัพย์สินของ Leclerc Briant ก็คือแชมเปญ โดยสมาชิกจะต้องหาขวดแชมเปญที่มีสีเหลือง-แดงติดอยู่ที่ก้นขวดภายในที่เก็บแชมเปญ แล้วเดินบันไดขึ้นมาเพื่อเปิดฝาขวด โดยใช้มีดเฉือนซึ่งเป็นวิธีดั้งเดิม เมื่อเฉือนเสร็จแล้ว โดยแรงที่เกิดขึ้นจะผลักดันให้คำใบ้ต่อไปพุ่งออกมา ส่วนทางแยกของเลกนี้ ทีมจะต้องเลือกระหว่างอาคาร (Tower) กับพื้นดิน (Terra) โดยทีมที่เลือกอาคาร จะต้องเข้าไปในห้องที่มีวงดนตรีเล่นเครื่องดนตรีอยู่ แล้วใช้แก้วแชมเปญจำนวน 680 ใบในกล่อง มาเรียงต่อเป็นอาคารสูง 15 ชั้น โดยมีเพียงแก้วใบเดียวอยู่ด้านบน เมื่อเรียงเสร็จแล้ว ทีมจะต้องนำแชมเปญหนัก 16 ปอนด์เทบนแก้วด้านบนสุด เพื่อให้แชมเปญไหลไปตามแก้วที่เรียงไว้ เมื่อเทแชมเปญหมดแล้วโดยที่แก้วไม่แตก ทีมจะได้รับคำใบ้ต่อไป ส่วนทีมที่เลือกพื้นดิน จะต้องเข้าไปในแปลงองุ่นพื้นที่ 1 ตารางกิโมเมตร (250 เอเคอร์) แล้วหาลูกองุ่นที่มีเถาติดสติ๊กเกอร์เหลือง-แดง ซึ่งจะมีธงสีเหลือง-แดงกำกับบอกอยู่ เมื่อทีมหาองุ่นเจอแล้ว ทีมจะต้องนำองุ่นไปแลกคำใบ้ต่อไปจากนักเก็บเกี่ยว

เลก 7 (ฝรั่งเศส → เซเชลส์)

ทีมจะต้องเดินทางไปยังเกาะปราสแลง สถานที่ที่ทีมจะต้องประกอบแผนที่ เพื่อนำทางทีมไปยังจุดหยุดพักของเลกนี้

ทางแยกของเลกนี้ ทีมจะต้องเลือกระหว่างการเดินเตาะแตะของเต่า (Turtle Toddle) กับการวิ่งเหยาะเหยาะของวัว (Ox Trot) โดยทีมที่เลือกการเดินเตาะแตะของเต่า จะต้องใช้กล้วย เพื่อนำเต่ายักษ์เซเชลส์ อายุ 100 ปีหนักถึง 500 ปอนด์ (230 กิโลกรัม) ข้ามสนามหญ้าที่ตีเส้น เมื่อเต่าสามารถข้ามเส้นได้แล้ว ทีมจะต้องขนส่งเครือกล้วยไปตามทาง 1.5 ไมล์ (หรือ 2.4 กิโลเมตร) ไปยังแผงขายผลไม้เพื่อรับคำใบ้ต่อไปจากพ่อค้า ส่วนทีมที่เลือกการวิ่งเหยาะเหยาะของวัว จะต้องขับรถเกวียนและนำกองมะพร้าวใส่ลงไป และเมื่อวัวถูกผูกกับรถเกวียนแล้ว ทีมจะต้องบังคับให้วัวให้ไปขนส่งมะพร้าวที่แผงขายผลไม้ (แผงเดียวกับทางแยกการเดินเตาะแตะของเต่า) เมื่อพ่อค้าเห็นว่ามะพร้าวมีจำนวนครบตามสั่งแล้ว ทีมจะได้รับคำใบ้ต่อไป ทั้งนี้หากทีมทำมะพร้าวตกแม้แต่ลูกเดียวหรือไม่ได้หยิบมะพร้าวใส่รถให้ครบ ทีมจะต้องย้อนกลับไปเอามะพร้าวมาใส่ที่รถเกวียนให้ครบ ก่อนที่จะอนุญาตให้ปฏิบัติภารกิจต่อได้ ส่วนอุปสรรคของเลกนี้ สมาชิกที่ทำอุปสรรคจะต้องดำน้ำลงไปในทะเล เพื่อนำขวดหนึ่งในเจ็ดขวดที่ผูกอยู่กับกล่องขึ้นมา เมื่อเรือจอดที่ท่าเรือปราสแลงแล้ว ทีมจะต้องว่ายน้ำมาที่ชายหาดแล้วเปิดขวด เพื่อประกอบแผนที่เพื่อนำทางทีมไปยังขุมสมบัติ ซึ่งก็คือจุดหยุดพักของเลกนี้

ภารกิจเสริม
  • เมื่อทีมเดินทางมาถึงมาเฮแล้ว ทีมจะต้องค้นหาศาลาพักร้อนที่ติดสติกเกอร์ไว้ แล้วหยิบหมายเลข ซึ่งเป็นลำดับในการขึ้นเฮลิคอปเตอร์ โดย 3 หมายเลขแรกจะได้ขึ้นเฮลิคอปเตอร์เที่ยวแรก ส่วน 3 หมายเลขหลังจะได้ขึ้นเฮลิคอปเตอร์เที่ยวต่อไปอีก 1 ชั่วโมงถัดมาไปยังลา ดีค

เลก 8 (เซเชลส์ → มาเลเซีย)

คฤหาสนปรานากันปานัง เป็นจุดหยุดพักที่แปดของการแข่งขันที่จอร์จทาวน์, มาเลเซีย

ทางแยกของเลกนี้ ทีมจะต้องเลือกระหว่างวัฒนธรรมพุทธ (Buddhist Tradition) กับประเพณีจีน (Chinese Custom) โดยทีมที่เลือกวัฒนธรรมพุทธ จะต้องเดินทางไปยังวัดพุทธเทียนกองทาน แล้วขนกำยานจำนวน 12 แท่งขึ้นไปบนวัดที่อยู่เหนือขึ้นบันไดกว่า 200 ขั้น ซึ่งเมื่อทีมนำกำยานมาวางแต่ละรอบแล้ว จะมีพระตีระฆังเพื่อแสดงจำนวนครั้ง โดยเมื่อทีมนำกำยานใส่ในฐานเรียบร้อยแล้ว ทีมจะต้องจุดไฟใส่กำยานเพื่อรับคำใบต่อไปจากพระสงฆ์ ส่วนทีมที่เลือกประเพณีจีน จะต้องเดินทางไปยังสวนสาธารณะปาดัง โกตา ลามา เพื่อปฏิบัติพิธีกรรมของจีน โดยการทรงตัวธงขนาดใหญ่ไว้เหนือศีรษะและวิ่งข้ามสนาม เมื่อสมาชิกทั้งสองสามารถทรงตัวโดยให้ธงไม่ล้มทั้งสองคนแล้ว ทีมจะได้รับคำใบ้ต่อไป ส่วนอุปสรรคของเลกนี้ สมาชิกที่ทำอุปสรรคจะต้องประเพณีทางฮินดู ที่เรียกว่าการลอย (คล้ายกับการลอยกระทง) โดยเริ่มจากการทุบมะพร้าวจำนวนมาก เพื่อหามะพร้าวซึ่งด้านในมีสีทาอยู่ จากนั้นก็นำมาตกแต่งแล้วลอยไปหากูรู ซึ่งอยู่ในทะเล เมื่อเขาเห็นว่าตกแต่งได้เรียบร้อยแล้ว เขาจะมอบคำใบ้ต่อไปให้ทีม และงานเพิ่มเติมของเจ็ทกับคอร์ทนั้น พวกเขาจะต้องเดินทางไปยังสวนพฤกษชาติเครื่องเทศ และค้นหาผู้หญิงที่กำลังบ่นเครื่องใบชา แล้วดมเพื่อหาชาที่มีกลิ่นเดียวกัน จากนั้นจึงเดินหากูรูที่นั่งชิงช้าอยู่ ทีมจะต้องเสิร์ฟชาที่ถูกต้องให้แก่กูรู เพื่อให้สามารถทำการแข่งขันต่อไปได้

เลก 9 (มาเลเซีย → สิงคโปร์)

ชิงช้าสวรรค์สิงคโปร์ฟลายเยอร์ ชิงช้าสวรรค์ที่สูงที่สุดในโลก เป็นสถานที่สำหรับทำงานทางด่วนซึ่งมีเพียงครั้งเดียวตลอดการแข่งขันนี้

งานทางด่วนซึ่งมีเพียงครั้งเดียวตลอดการแข่งขันนี้ ทีมหนึ่งทีมจะต้องไปที่สิงคโปร์ฟลายเยอร์ โดยทีมต้องนั่งกระเช้าขึ้นไป 541 ฟุต (165 เมตร) ไปที่จุดยอดของชิงช้าสวรรค์ แล้วจึงไต่ออกมาจากกระเช้ามาตามบันไดที่อยู่บนอากาศ เพื่อไปยังกระเช้าต่อไปที่มีคำใบ้เข้าสู่จุดหยุดพักรออยู่ ทางแยกในเลกนี้ทีมจะต้องเลือกระหว่างการตีกลอง (Pounding The Drums) และการตีบนบาทวิถี (Pounding The Pavement) โดยทีมที่เลือกการตีกลอง จะต้องเดินทางไปที่ลานนักพูด (Speakers' Corner) และเรียนวิธีการตีกลองในการเชิดสิงโต เมื่อเด็กที่ฝึกสอนพอใจแล้ว ทีมจะต้องขึ้นตีกลองประกอบการเชิดสิงโตบนเวทีเพื่อรับคำใบ้ต่อไป สำหรับทีมที่เลือกการตีบนบาทวิถี ทีมจะต้องเดินตามลานกว้างบนถนนโรเชอร์เพื่อไปนำของซึ่งได้แก่ ร่มตั้งร้าน เก้าอี้ เวเฟอร์ ขนมปังหนึ่งแถวและไอศกรีม 10 กล่อง แล้วตามหาคนขายไอศกรีมที่กำหนด จากนั้นทีมต้องขายไอศกรีมแซนด์วิชในแบบสิงคโปร์ให้ได้ 25 ชิ้น (ชิ้นละ 1 ดอลลาร์สิงคโปร์) เพื่อรับคำใบ้ต่อไป งานอุปสรรคในเลกนี้ สมาชิกหนึ่งคนในทีมจะต้องนับจำนวนโซ่สมอเรือ ท่ามกลางเสียงดังจากคนงานที่กำลังทำงานอยู่และเสียงประกาศผ่านลำโพง เมื่อทีมนับได้ครบและเขียนตัวเลขที่ถูกต้องบนกระดาษ (521 ชิ้น) และนำกระดาษไปส่งให้กับผู้จัดการท่าเรือ ทีมจึงจะได้รับคำใบ้ต่อไป

ภารกิจเสริม
  • เมื่อทีมมาถึงโรงละครและคอนเสิร์ตวิคตอเรีย ทีมจะต้องหาอลัน วู พิธีกรของ ดิ อะเมซิ่ง เรซ เอเชีย เพื่อรับคำใบ้ต่อไป
  • เมื่อเสร็จภารกิจทางแยกแล้ว คำใบ้ต่อไปบอกให้ทีมหาแท่นสั่งย้อนกลับ และคำใบ้ต่อไปโดยใช้คำใบ้ที่ว่าสถานที่ดังกล่าวอยู่ที่ "แยกของเมืองสุดท้ายที่หยุดพัก" ตัดกับถนนออร์ชาร์ด ซึ่งสถานที่ดังกล่าวคือสวนอิสตานะ ซึ่งอยู่ที่ถนนปีนังตัดกับถนนออร์ชาร์ด
  • ที่เซนโตซา ทีมต้องโหนสลิงเมกะซิปที่สวนเมกะซิปแอดเวนเจอร์ เป็นระยะทาง 1,476 ฟุต (450 เมตร) เมื่อทีมลงจากสลิงแล้วจึงจะได้รับคำใบ้ต่อไป

เลก 10 (สิงคโปร์ → สาธารณรัฐประชาชนจีน)

พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเซี่ยงไฮ้ เป็นจุดหยุดพักที่ 10 ของการแข่งขัน

อุปสรรคแรกของเลกนี้ สมาชิกที่ทำอุปสรรคจะดูการสาธิตทำเส้นก๋วยเตี๋ยวหนัก 1 กิโลกรัม (หรือ 2.2 ปอนด์) ของนักทำเส้นก๋วยเตี๋ยวท้องถิ่น จากนั้นจึงทำเส้นก๋วยเตี๋ยวเอง เมื่อทีมทำเส้นเสร็จแล้ว เหอปิงปิง อดีดคนที่ตัวเตี้ยที่สุดในโลก (ปัจจุบันเสียชีวิตไปแล้วเมื่อวันที่ 10 มีนาคม พ.ศ. 2553) จะมอบคำใบ้ต่อไปแก่ทีม ส่วนอุปสรรคที่สองของเลกนี้ สมาชิกที่ไม่ได้กระทำในอุปสรรคที่แล้ว จะต้องเรียงจิ๊กซอว์จำนวน 96 ชิ้นให้ได้เป็นรูปมังกร แล้วนำแผ่นจิ๊กซอว์ไปมอบให้ประชาชนบนสแตนด์ตามลำดับ หากสมาชิกในทีมสามารถต่อจิ๊กซอว์ได้ถูกต้อง ด้านหลังจิ๊กซอว์จะมีหมายเลขที่นั่งในสนามที่ซึ่งคำใบ้ต่อไปรออยู่

ภารกิจเสริม
  • ที่หมู่บ้านจูเจียเจี่ยว ทีมจะต้องนั่งเรือเพื่อไปยังจุดที่มีแท่นคำใบ้ต่อไปวางอยู่
  • ที่ย่านแฟชั่นไท่คังลู่ ทีมจะต้องแต่งตัวให้กับนางแบบจีน โดยใช้แบบต้นฉบับเปรียบเทียบในราวเสื้อผ้ามากมาย เมื่อนางแบบเปลี่ยนชุดตรงตามที่ดีไซเนอร์ออกแบบไว้ ทีมจะได้รับคำใบ้ต่อไปจากดีไซเนอร์

เลก 11 (สาธารณรัฐประชาชนจีน)

ทางเดินริมน้ำหวงปู่ เป็นจุดหยุดพักที่ 11 และเป็นจุดหยุดพักลำดับสุดท้ายของการแข่งขัน

อุปสรรคในเลกนี้ สมาชิกหนึ่งคนในทีมจะต้องเข้าไปในโบสถ์อรหันต์ของวัดหลงหัว แล้วนับจำนวนพระพุทธรูปทองทั้งหมดที่อยู่ในอุโบสถ เมื่อทีมนับได้จำนวนที่ถูกต้อง (523 องค์) ทีมจึงจะได้รับคำใบ้ต่อไป หากทีมตอบผิด จะต้องรอ 10 นาทีจึงจะตอบใหม่ได้ ส่วนทางแยกของเลกนี้ ทีมจะต้องเลือกระหว่างตราหมู (Pork Chops) กับเกี๊ยวหมู (Pork Dumplings) โดยทีมที่เลือกตราหมู จะต้องเดินหาร้านตกแต่งศิลปะตราประทับหิน แล้วมองหาตราประทับหินพิเศษหรือพอร์ค ที่มีรูหมูอยู่ข้างใต้พร้อมกับชื่อสมาชิกแต่ละคนภายในทีม ถ้าทีมสามารถหาตราประทับได้ครบเรียบร้อยแล้ว ทีมจะได้รับคำใบ้ต่อไปจากเจ้าของร้าน ส่วนทีมที่เลือกเกี๊ยวหมูนั้น จะต้องเดินทางไปยังร้านขายเกี๊ยว แล้วขนส่งซุปแป้งต้มภายในตลาด 10 ที่ เมื่อทีมขนส่งซุปแป้งต้มจนหมดแล้ว ทีมจะได้รับคำใบ้ต่อไปจากพ่อครัว ส่วนงานเพิ่มเติมของหลุยส์กับไมเคิลนั้น ทั้งคู่จะต้องประกอบพิธีกรรมเพื่อขอให้ตนเองโชคดี โดยการโยนเหรียญไปยังช่องบนสุดของกระถางธูปขนาดใหญ่ที่บริเวณลานกว้างของวัดหลงหัว เมื่อทั้งคู่สามารถโยนเหรียญลงช่อง ที่อยู่ด้านบนของกระถางธูปได้แล้ว ทีมจะได้รับอนุญาตให้ทำการแข่งขันต่อไปได้

เลก 12 (สาธารณรัฐประชาชนจีน → สหรัฐอเมริกา)

สำหรับเลกสุดท้ายของการแข่งขันครั้งนี้ ทีมจะได้รับคำใบ้เป็นเนื้อเพลง ซึ่งทีมจะต้องค้นพบว่าเนื้อเพลงที่ขาดหายไป กล่าวถึงสนามกีฬาแคนเดิ้ลสติ๊ก อันเป็นสถานที่จุดหยุดพักสุดท้ายในการแข่งขัน
  • เซี่ยงไฮ้ (ท่าอากาศยานนานาชาติซ่างไห่ผู่ตง) ไป ซานฟรานซิสโก, แคลิฟอร์เนีย, สหรัฐอเมริกา (ท่าอากาศยานนานาชาติซานฟรานซิสโก)
  • ซานฟรานซิสโก (ป้อมปราการแบตเตอรี่ กอดฟรีย์)
  • ซานฟรานซิสโก (หอคอยคอยท์)
  • ซานฟรานซิสโก (เล็ตเตอร์แมนดิจิตอลอาร์ตสเซ็นเตอร์ - รูปปั้นโยดา)
  • ซานฟรานซิสโก (ห้องตองงา)
  • ซานฟรานซิสโก (หอเพลงอเมริกา)
  • ซานฟรานซิสโก (สนามกีฬาแคนเดิ้ลสติ๊ก) (เส้นชัย)

อุปสรรคสุดท้ายของการแข่งขัน สมาชิกที่ทำอุปสรรคจะต้องปีนขึ้นไปบนทางเดินระเบียงของหอคอยคอยท์ ที่ที่คำใบ้ต่อไปผูกอยู่ ก่อนที่จะโรยตัวต่ำลงมาที่พื้นดิน

ภารกิจเสริม
  • ที่ป้อมปราการแบตเตอรี่ กอดฟรีย์ ทีมจะต้องไขปริศนาที่กล่าวพรรณนาถึงลักษณะ และปีที่ก่อสร้างของสถานที่ต่อไปที่ทีมจะต้องไปเยือน - หอคอยคอยท์
  • ที่เล็ตเตอร์แมนดิจิตอลอาร์ตสเซ็นเตอร์ สมาชิกหนึ่งคนภายในทีมจะต้องสวมใส่ชุดโมชั่น แคปเจอร์ โดยที่สมาชิกอีกคนจะต้องควบคุมตัวละครเสมือนจริง ที่มีพื้นฐานมาจากสตาร์ วอร์ส: เดอะ โคลน วอร์ส โดยทีมจะต้องเล่นให้ผ่านทั้งสองด่าน ก่อนที่สมาชิกที่ควบคุมจะต้องอ่านข้อความ ที่หมุนไปมาอย่างรวดเร็วให้ออก เพื่อค้นพบว่าสถานที่ต่อไปที่จะต้องไปเยือนคือห้องตองงา
  • ที่ห้องตองงา ทีมจะต้องขนส่งหีบสมบัติไปยังสถานที่ที่ถูกตราประทับไว้ - หอเพลงอเมริกา
  • ที่หอเพลงอเมริกา ทีมจะต้องเรียงภาพของผู้เข้าแข่งขันแนวไซเคเดลิกร็อกตามลำดับการคัดออก รวมถึงเลกที่ไม่มีการคัดออกอีกด้วย เมื่อทีมเรียงเสร็จแล้ว ทีมจะได้รับคำใบ้สุดท้ายจากนักเทคนิคผู้เดินทางไปพร้อมวงดนตรี